เหตุใดปัสสาวะคนเราจึงมีสีเหลืองในบางครั้ง?
จำนวนผู้เข้าชม: 129
เพราะตามปกติน้ำปัสสาวะของคนเราจะใส แต่ถ้าดื่มน้ำน้อยไปหรือร่างกายสูญเสียน้ำมากไป เช่น เป็นไข้สูง ท้องเดิน อาเจียน หรือเหงื่อออกมาก ก็อาจทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมีสีเหลืองแบบสีน้ำตาลได้ นี่ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เมื่อดื่มน้ำมากขึ้น ปัสสาวะก็จะกลับใสได้เหมือนเดิม แต่ในกรณีที่คุณพบว่า ปัสสาวะของตัวเองมีสีเหลือง สีขมิ้น ทุกครั้งแม้จะดื่มน้ำมากแค่ไหน สีน้ำปัสสาวะก็ไม่จาง นั่นก็แสดงว่าคุณมีอาการของดีซ่าน ซึ่งอาจจะเป็นโรคตับอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบหรืออื่นๆก็ได้ ซึ่งโรคพวกนี้มักจะมีอาการตาเหลืองตัวเหลืองควบคู่ไปด้วย แต่ถ้าปัสสาวะมีสีแดงเป็นเลือดหรือแบบน้ำล้างเนื้อหรือน้ำหมากนั่น นั่นอาจแสดงว่าร่างกายเกิดไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบเนื้องอกหรือเป็นนิ่วในการเดินปัสสวะได้ ซึ่งคุณก็ควรรีบปรึกษาแพทย์ต่อไป
เรื่องของปัสสาวะนี้มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง ถ้าคุณกินยาแก้กษัยหรือยาล้างไตหรือยาล้างท่อปัสสาวะที่ซื้อตามร้านยา ซึ่งอาจจะใส่สารเคมีที่เป็นสี ทำให้ถ่ายปัสสาวะออกมาเป็นสีแดงหรือสีเขียวได้คุณอย่าเพิ่งตกใจเพราะจะเป็นเพียงชั่วคราว เมื่อหมดฤทธิ์ยาแล้วปัสสาวะก็จะกลับใสเหมือนเดิม
สีหรือกลิ่นปัสสาวะ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีสิ่งแปลกปลอมหรืออันตรายซ่อนอยู่ภายในร่างกาย
1. สีเหลือง
ปกติปัสสาวะมักเป็นสีเหลืองใส ขึ้นอยู่กับอาหารและปริมาณน้ำที่ดื่ม หากดื่มน้ำน้อย ปัสสาวะจะมีสีเข้มขึ้น ดังนั้นหากพบว่าปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือหลังออกกำลังกาย โดยดื่มจนกว่าปัสสาวะจะมีสีอ่อนลง ในทางกลับกันหากปัสสาวะใสเหมือนน้ำอาจหมายถึงการดื่มน้ำมากเกินไป จนเกลือแร่ในร่างกายเจือจาง สิ่งที่ดีที่สุดคือดื่มให้พอดี และหมั่นสังเกตปัสสาวะเสมอ
2. สีแดง
ปัสสาวะสีแดงนอกจากจะเกิดจากการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น บีทรูท กระเจี๊ยบแดง หรืออาจเกิดจากการมีเลือดปน ซึ่งเป็นได้ตั้งแต่สีแดงจางๆ ไปจนถึงแดงเข้มขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น เลือดที่ปนในปัสสาวะอาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือนิ่วในไต ท่อไต หรือกระเพาะปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ หรือท่อปัสสาวะ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุทั้งหญิงและชาย แต่ก็อาจพบในผู้มีอายุน้อยที่สูบบุหรี่จัด บ่อยครั้งที่พบว่าปัสสาวะมีเลือดปนเนื่องจากมีเนื้องอกหรือมะเร็งมักไม่มีอาการหรือความเจ็บปวดใดๆ
นอกจากนี้การขยายตัวของต่อมลูกหมากที่ไม่เป็นมะเร็งในผู้ชายก็สามารถทำให้มีเลือดปนในปัสสาวะเช่นกัน ดังนั้นหากพบว่ามีเลือดปนในปัสสาวะติดต่อกันหลายวัน หรือมีเลือดออกมากจนปัสสาวะเป็นสีแดงเข้ม ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
3. สีม่วง
แม้ปัสสาวะสีม่วงจะหายาก แต่ก็พบได้ในถุงระบายน้ำปัสสาวะของผู้ป่วยสูงอายุที่ใส่ท่อสวนปัสสาวะ ซึ่งปัสสาวะสีม่วงเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างแบคทีเรียกับถุงระบายน้ำปัสสาวะที่เป็นพลาสติก
4. สีน้ำตาล
ปัสสาวะสีน้ำตาลคล้ายชาเกิดจากการสลายตัวของกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพยาเสพติด ทั้งนี้ยังอาจเกิดจากปัญหาตับอักเสบ มีระดับบิลิรูบิน (bilirubin) สูง จนขับออกทางปัสสาวะ หากพบว่ามีปัสสาวะสีน้ำตาลหรือสีชาควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจร่างกายโดยด่วน
5. สีขาวขุ่น
ปัสสาวะสีขาวขุ่นจนเห็นได้ชัด อาจเกิดจากมีหนองปน ส่วนใหญ่มักเกิดในผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะทิ้งไว้เป็นเวลานาน หรือมีน้ำเหลืองในปัสสาวะ
6. สีส้ม
ปัสสาวะสีส้มอาจเกิดจากการรับประทานวิตามินหรือยาบางชนิด โดยเฉพาะยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อต่างๆ
7. สีฟ้าหรือสีเขียว
ปัสสาวะสีฟ้าหรือเขียวส่วนใหญ่มักมาจากยาที่ช่วยลดการระคายเคืองจากการติดเชื้อหรือการรักษาภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ รวมถึงการได้รับยาชาบางชนิด นอกจากนี้การรับประทานหน่อไม้ฝรั่งอาจทำให้ปัสสาวะมีสีเขียวอ่อนได้
นอกจากสีแล้ว ความขุ่นใส ปัสสาวะเป็นฟอง หรือกลิ่นที่เปลี่ยนไปก็บอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายเช่นกัน ดังนั้นหากสังเกตเห็นปัสสาวะเปลี่ยนไป ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย การค้นพบโรคร้ายแรงบางชนิดตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพ