บทความที่น่าสนใจ

 

อาการเกิดหน้ามืดง่ายเมื่อเปลี่ยนอริยบทเกิดจากอะไร?

จำนวนผู้เข้าชม: 96

 

อาการเกิดหน้ามืดง่ายเมื่อเปลี่ยนอริยบทเกิดจากเกิดจากสมรรถภาพของหัวใจและหลอดเลือดไม่ดีเท่าที่ควรและปฏิบัติตอบโต้ต่อการเปลี่ยนอิริยาบถไม่ฉับไวพอ โดยทั่วไปเลือดจากเส้นเลือดดำของร่างกายจะถูกถ่ายเทสู่หัวใจด้านขวาจากนั้นจะถูกส่งไปยังปอดเพื่อฟอกให้เป็นเลือดแดงแล้วจึงไหลวนกลับเข้าสู่หัวใจได้ซ้ายสุดจะถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายขณะที่เปลี่ยนอริยาบถจากนอนเป็นยืนหรือนั่งเป็นยืนโดยรวดเร็วเลือดจะตกลงไปอยู่ที่ส่วนต่างๆของร่างกายจำนวนเลือดดำที่กลับเข้าสู่หัวใจจึงน้อยลงเลือดจะไปเลี้ยงสมองก็น้อยลงและในขณะเดียวกันถ้าปฏิกิริยาโต้ตอบของหัวใจช้าไม่สามารถบีบตัวให้แรงขึ้นและเร็วขึ้นในทันทีความดันเลือดก็จะไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงสมองซึ่งอยู่สูงที่สุดในขณะนั้นได้จึงทำให้เกิดอาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมถ้าได้ออกกำลังกายเป็นประจำหลอดเลือดดำบริเวณขามีแรงขับไล่เลือดกลับสู่หัวใจได้มากขึ้นเร็วขึ้นหัวใจเองสามารถโต้ตอบสภาพโดยบีบตัวแรงขึ้นได้โดยฉับพลันอาการหน้ามืดก็จะค่อยๆน้อยลงจนหายไปได้

 

อาการหน้ามืด หมายถึงอาการวิงเวียนหัว ตามัวจนมองอะไรพร่าไปหมด หรือวูบไปคล้ายจะไม่รู้สึกตัว (หมดสติ) แต่ยังรู้สึกตัวอยู่ (ยังไม่หมดสติ) อาการเวียนหัวในที่นี้ไม่ใช่อาการวิงเวียนที่เกิดจากความรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่รอบตัว (บ้าน) หมุน หรือตัวเองหมุน
อาการเป็นลม หมายถึง อาการหมดสติไปชั่วขณะ จากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงทันที ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายลดลงทันที (ปริมาณเลือดจากหัวใจลดลงทันที) ทำให้สมองโดยทั่วไปขาดแคลนเลือดไปเลี้ยงฉับพลัน จึงทำให้หมดสติไปชั่วครู่ (ในเวลาพริบตาเดียว ไม่กี่วินาที หรืออาจเป็นเวลาหลายนาที แต่ไม่ถึงชั่วโมง)
โดยทั่วไปจะวินิจฉัยอาการหน้ามืดเป็นลมได้ จากการที่คนไข้ล้มลง ทรุดลง หรือฟุบลง ไม่รู้สึกตัวหรือไม่ค่อยรู้สึกตัว แต่ยังหายใจได้ และคลำชีพจรได้ ส่วนคนไข้ที่มีอาการหน้ามืด จะยังรู้สึกตัวอยู่ แต่อาจจะมึนงง รู้สึกหวิวหรือวูบและอ่อนแรงลงเท่านั้น

 

   

 


1. เป็นลมธรรมดา
เป็นอาการหน้ามืดเป็นลมที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดในคนที่ร่างกายและ/หรือจิตใจอ่อนแอ เช่น ไม่สบาย เพิ่งฟื้นไข้ อดนอน หิวข้าว หิวน้ำ แล้วต้องอยู่ในที่ร้อนและอบอ้าวหรือแออัด โดยเฉพาะถ้าเครียด กังวล หงุดหงิด โกรธ หรือกลัว จะเกิดอาการง่ายขึ้น คนที่ออกกำลังในที่ร้อน ก็อาจเป็นลมเพราะร้อนได้

 

2. เป็นลมเมื่อเปลี่ยนท่า
คืออาการหน้ามืด เป็นลมเป็นเมื่อเปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่านั่ง หรือท่ายืน โดยเฉพาะถ้าลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจากท่านอนหรือท่านั่ง หรือการยืนอยู่เฉย ๆ เป็นเวลานาน มักเกิดกับคนไข้ที่ สูงอายุ ร่างกายอ่อนแอ โดยเฉพาะคนที่นอนอยู่กับเตียงเป็นเวลานาน ๆ (หลายวันขึ้นไป) จนกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงและไม่ตึงตัว ทำให้เวลาลุกขึ้น เลือดจะตกไปกองอยู่ที่ขา ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง ได้รับยาที่ทำให้ความดันเลือดตกเมื่อเปลี่ยนท่า เช่น ยาลดความดันเลือดหลายชนิด, ยาขับปัสสาวะ ยาแก้อาการซึมเศร้า ยานอนหลับ เป็นต้น
ปริมาตรพร่อง (ปริมาตรเลือด หรือปริมาตรน้ำในร่างกายพร่อง) เช่น คนไข้ตกเลือด คนไข้ท้องเดินมาก คนไข้อาเจียนมาก คนไข้ปัสสาวะมาก เป็นต้น
ระบบประสาทผิดปกติ เช่น ปลายประสาทพิการ จากเบาหวาน จากโรคซิฟิลิส (กามโรคชนิดหนึ่ง) หรืออื่น ๆ ระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติ สมองพิการบางชนิด เป็นต้น
ขามีหลอดโป่งขดมาก หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาก ทำให้เลือดไปคั่งอยู่ในบริเวณขาโดยเฉพาะในท่ายืน

3. เป็นลมเพราะหัวใจ
คือ อาการเป็นลมที่เกิดขึ้นเพราะหัวใจผิดปกติ (ไม่ใช่เพราะจิตใจผิดปกติ ดังในข้อ 6) อาจแบ่งออกเป็น เป็นลมเพราะหัวใจเต้นผิดปกติ (syncope from cardiac arrhythmia) เช่น
หัวใจหยุดเต้น คนไข้จะหมดสติทันที และคลำชีพจรที่คอ และขาหนีบไม่ได้ ต้องรีบทำการฟื้นชีวิตทันที (ดู วิธีรักษา คนไข้ฉุกเฉินและเจ็บหนัก ในมาเป็นหมอกันเถิด ในหมอชาวบ้าน ฉบับที่ 64-65) อย่าไปรอว่าคนไข้ล้มฟุบ ลงนอนราบแล้ว จะหายจากอาการเป็นลม เพราะการที่คลำชีพจรที่คอ และขาหนีบไม่ได้ ให้ถือว่า หัวใจหยุดเต้นแล้ว ต้องฟื้นชีวิตทันที มิฉะนั้น คนไข้จะตาย

 

^