บทความที่น่าสนใจ

 

หัดเยอรมันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

จำนวนผู้เข้าชม: 144

 

หัดเยอรมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
หัดเยอรมันเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งติดต่อเชื้อทางการหายใจหลังระยะฟักตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์คนให้จะมีอาการของโรคดังต่อไปนี้
1 อาการนำได้แก่ตัวร้อนอ่อนเพลียเบื่ออาหารไอหวัดตาแดงเป็นงูประมาณ 1-5 วัน ก่อนผื่นออกพบในเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่
2 ต่อมน้ำเหลืองโต ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณคอและหลังหูจะโตกว่าธรรมดาและเจ็บเล็กน้อย
3 ผืนเป็นอาการแสดงที่สำคัญเพราะส่วนใหญ่ของโรคหัดเยอรมันจะมีผื่นออกด้วยผื่นมีลักษณะเป็นสีชมพูนูนขึ้นที่บริเวณหน้าอ่อนแล้วลามลงมาที่คอลำตัวและแขนขาผื่นในหัดเยอรมันจะรามเร็วโดยมากจะขึ้นเต็มตัวในวันเดียวในวันต่อมาคืนจะจางลงโดยเริ่มจากที่หน้าก่อนเช่นเดียวกันโดยทั่วไปผื่นจะหายภายในเวลา 3 วันแต่บางครั้งก็ใช้เวลานานกว่านั้น

 

 

โรคหัดเยอรมัน (Rubella) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส โดยคนส่วนใหญ่จะแสดงอาการเพียงเล็กน้อยหรือบางรายจะไม่แสดงอาการของโรคเลย โรคหัดเยอรมันยังสามารถส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีความรุนแรงต่อทารกในครรภ์ โรคหัดเยอรมันและโรคหัดไม่ใช่โรคเดียวกันแต่ว่ามีลักษณะอาการผื่นแดงที่มีความใกล้เคียงกัน นอกจากนั้นสาเหตุการเกิดโรคหัดเยอรมันนั้นเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆที่แตกต่างจากโรคหัด ในแง่ของความรุนแรงของโรค

     วัคซีน MMR (หัด-คางทูม-หัดเยอรมัน) เป็นวัคซีนที่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิผลในการป้องกันโรคหัดเยอรมัน แต่วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันไม่ได้สามารถหาได้ทุกประเทศ
โรคหัดเยอรมันเป็นโรคที่มักจะไม่แสดงอาการ และแทบจะไม่ปรากฏอาการโดยเฉพาะกับเด็ก โรคหัดเยอรมันมักมีอาการของโรคปรากฏขึ้นระหว่างสองถึงสามสัปดาห์หลังจากที่ผู้ป่วยมีการสัมผัสกับไวรัส ระยะเวลาของอาการกินระยะเวลามากสุดเป็นเวลาห้าวัน โดยมีอาการดังต่อไปนี้ไข้ต่ำประมาณ 38.9 เซลเซียสหรือต่ำกว่านั้น
ปวดศีรษะน้ำมูกไหล ตาแดงและอักเสบพบว่าต่อมน้ำเหลืองเกิดการโตขึ้น บริเวณที่ต่อมน้ำเหลืองโตจะมีลักษณะพื้นผิวที่นิ่ม และมักพบบริเวณด้านหลังกระโหลกศรีษะ หลังคอ หรือด้านหลังหูผื่นสีชมพูจะเริ่มปรากฏที่ใบหน้าและจะเริ่มกระจายไปที่ลำตัว แขนและขา ตามลำดับ
อาการปวดข้อจะพบได้บ่อยกับวัยรุ่นผู้หญิง
ผู้ป่วยควรทำการนัดพบแพทย์หากคิดว่าตัวคุณหรือบุตรจะได้รับเชื้อหัดเยอรมันหรือมีอาการตามที่กล่าวไว้ด้านบน ผู้ป่วยควรตรวจข้อมูลบันทึกวัคซีนหัดเยอรมัน เพื่อให้แน่ใจว่าเคยได้รับวัคซีน MMR โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกำลังวางแผนตั้งครรภ์ เนื่องจากโรคหัดเยอรมันอาจส่งผลให้เกิดความพิการกับทารกในครรภ์ตั้งแต่เกิด และอาจมีความรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้อาการของโรคหัดเยอรมันจะเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้นหากมารดาเกิดการติดเชื้อหัดเยอรมันในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ สาเหตุหลักของการเกิดอาการหูหนวกแต่กำเนิด เกิดจากการติดเชื้อไข้หัดเยอรมันในระหว่างการตั้งครรภ์ ดังนั้นการได้รับวัคซีน MMR

 

หากมีการตั้งครรภ์แพทย์จะทำการสั่งให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจคัดกรองภูมิคุ้มกันต่อโรคหัดเยอรมันอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยควรทำการนัดพบแพทย์ทันทีหากไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนหัดเยอรมันหรือวัคซีน MMR มาก่อน นอกจากนี้แพทย์จะทำการสั่งให้ผู้ป่วยตรวจเลือดเพิ่มเติม เพื่อหาข้อมูลว่าผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อหัดเยอรมันหรือไม่

 

^