จำนวนผู้เข้าชม: 163
น้ำตาล เป็นชื่อเรียกทั่วไปของ คาร์โบไฮเดรต ชนิดละลายน้ำ มีรสหวาน ส่วนใหญ่ใช้ประกอบอาหาร น้ำตาลเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนประกอบไปด้วยคาร์บอน ไฮโตรเจน และออกซิเจน มีน้ำตาลหลายชนิดเกิดมาจากที่มาหลายแหล่ง น้ำตาลอย่างง่ายเรียกว่า โมโนแซ็กคาไรด์ และหมายรวมถึง กลูโคน ฟรุกโตส และกาแลโตส น้ำตาโต๊ะหรือน้ำตาลเม็ดที่ใช้เป็นอาหารคือซูโครส เป็นไดแซ็กคาไรด์ชนิดหนึ่ง น้ำตาลพบได้ทั่วไปในเนื้อเยื่อของพืช แต่มีเพียงอ้อย และซูการ์บีต เท่านั้นที่พบน้ำตาลในปริมาณความเข้มข้นเพียงพอที่จะสกัดออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตรวรรษที่ 20 มีข้อสงสัยว่าอาหารที่มีน้ำตาลสูง โดยเฉพาะน้ำตาลขัดแล้ว ดีต่อสุขภาพมนุษญ์หรือไม่ น้ำตาลมีส่วนทำให้เกิดโรคอ้วน และเป็นที่สงสัยว่าเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคสมองเสื่อม โรคจอประสาทตาเสื่อม และฝันผุ มีการศึกษาหลายครั้งเพื่อยืนยันแต่ด้วยผลลัพธ์ที่หลากหลาย โดยหลักเป็นเพราะการหาประชากรที่ไม่บริโภคน้ำตาลให้เป็นจัจจัยควบคุมนั่นทำได้ยาก
น้ำตาลไม่ได้มีผลเสียต่อสุขภาพแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อด้านผิวพรรณหรือความงามอีกด้วย เพราะเมื่อเรากินน้ำตาลเข้าไป มันจะเข้าไปทำลายโครงสร้างของคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ในชั้นผิว จนทำให้เซลล์ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับเต่งตึงดังเดิม ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นเร็วนั่นเอง
ชนิดของน้ำตาล
1. น้ำตาลทรายแดง คือ น้ำตาล ที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปของอ้อยสด ผ่านกระบวนการร่อนที่ได้มาตรฐาน จนอยู่ในรูปของผลึกเล็ก ๆ ด้วยธรรมชาติของอ้อยจะมีสีส้มอมเหลือง เมื่อสกัดออกมาเป็นน้ำตาลจึงให้สีน้ำตาลแดง และมีลักษณะเป็นเม็ดหยาบ ๆ โดยน้ำตาลทรายแดงจะยังคงคุณค่าของโภชนาการไว้อย่างครบถ้วน ทั้งวิตามิน แคลเซียม และฟอสฟอรัส
2. น้ำตาลทรายขาว เป็นน้ำตาลที่ได้จากกระบวนการผลิตจากน้ำตาลทรายแดง แต่นำมาเพิ่มมูลค่าด้วยการตกผลึกให้เป็นเม็ดละเอียด โดยปกติโรงงานน้ำตาลบางรายจะนำไปผ่านกระบวนการฟอกสี
3. น้ำตาลอ้อยธรรมชาติ คือน้ำตาลเกล็ดที่ผลิตจากอ้อยธรรมชาติ 100% จากอ้อย มีสีสันจากธรรมชาติ สะอาด ปลอดภัยน้ำตาลกรวดผลึกใส คือน้ำตาลที่มีผลึกขาวใส หวานกลมกล่อมเฉพาะตัว ผลิตจากน้ำตาลทรายบริสุทธิ์ที่ได้จากอ้อย ผ่านกรรมวิธีการตกผลึกอย่างช้า ๆ เพื่อให้ได้ผลึกน้ำตาลกรวดที่มีผลึกใสสะอาด
ประโยชน์ของน้ำตาล
1. น้ำตาลช่วยลดความเครียด แน่นอนว่าน้ำตาลเป็นสารให้พลังงานที่ดีอีกชนิดหนึ่ง เมื่อรับประทานเข้าไปจะช่วยให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขหรือเอ็นดอร์ฟินออกมา ช่วยให้ร่างกายกระชุมกระชวย ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี
2. น้ำตาลใช้ทำ Scrub เพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก Hand made โดยเฉพาะสูตรที่ผสมกับน้ำผึ้ง ชุ่มชื่น และลดอาการหมองคล้ำ นอกจากนั้นยังสามารถนำมาสครับบริเวณอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นรักแร้ ตาตุ่ม หรือบริเวณที่แห้งกร้าน
3. น้ำตาลใช้ถนอมอาหาร น้ำตาลเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการถนอมอาหารมาทุกยุคทุกสมัย ส่วนใหญ่มักใช้กับการแปรรูปผลไม้ที่มีรสหวาน โดยที่เห็นกันได้บ่อย ๆ คือการแช่อิ่ม การเคลือบหรือฉาบ นอกจากนั้นน้ำตาลทรายยังถูกนำมาใช้เป็นสารดูดซับความชื้นในกล่องขนม
4. น้ำตาลเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกาย น้ำตาลเป็นหนึ่งในสารที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์อีกหนึ่งชนิด ไม่ว่าจะในกระบวนการเผาผลาญหรือกระบวนการขับของเสีย ล้วนต้องอาศัยพลังงานจากน้ำตาลแทบทั้งสิ้น นอกจากนั้นนมแม่ที่ผลิตขึ้นเพื่อทารกที่เกิดใหม่ก็ยังมีส่วนผสมของ แลคโตส ซึ่งก็เป็นน้ำตาลอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
5. น้ำตาลช่วยกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื้อภายในร่างกาย อวัยวะและเนื้อเยื้อต่าง ๆ ในร่างกายล้วนต้องการพลังงานจากน้ำตาล ในรูป กลูโคส โดยสมองต้องการกลูโคสประมาณวัน
โทษของน้ำตาลถ้ามีมากเกินไป
1. ความหวานของน้ำตาล หากเกิดการสะสมในร่างกายมากเกินไปจะทำให้น้ำตาลสะสมในเลือด ส่งผลต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ระบบการย่อยอาหารไม่ดี มีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ทำให้ฟันผุ เป็นต้น
2. น้ำตาลเมื่อเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป ทำให้ตับอ่อนทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน เสื่อมสมรรถภาพทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
3. การกินน้ำตาลมากเกินไป จะเป็นตัวเร่งการขับแร่ธาตุโครเมียมออกจากร่างกาย ผ่านทางไต ซึ่งแร่โครเมียม เป็นแร่ธาตุเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน สารที่ใช้ลดระดับน้ำตาลในเลือด
4. น้ำตาลที่สะสมในร่างกาย จะถูกเก็บไว้ที่ตับ และ เป็นกรดไขมัน เพื่อนำไปสะสมในร่างกาย ส่วนที่เคลื่อนไหวน้อย เช่น สะโพก ก้น หน้าท้อง ขาอ่อน เป็นต้น
5.น้ำตาลทำให้เลือดมีสภาพเป็นกรดมากเกินไป ทำให้ร่างกายไม่สมดุล
6.น้ำตาลเป็นสารเร่งผิวหนังเหี่ยวย่นและริ้วรอย ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้ผิวเสีย หน้าแก่ เพราะน้ำตาลทำปฏิกิริยาเปลี่ยนโครงสร้างของคอลลาเจนทำให้อีลาสติกน้อยลง ซึ่งอีลาสติกเป็นโปรตีที่ทำให้ผิวกระชับและมีความยืดหยุ่น เมื่ออีลาสติกถูกทำลายจะทำให้ผิวทั้งแห้ง มีริ้วรอยลึก หย่อนคล้อย ทำให้ผิวหน้าแก่ก่อนวัยอันควร
7.น้ำตาลทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น หากมีการบริโภคน้ำตาลในปริมาณสูง ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้รับมากเกินความต้องการไปสะสมกลายเป็นไขมัน เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วยได้
8.น้ำตาลทำให้สมดุลของเลือดเสียไป การบริโภคน้ำตาลที่มากจนเกินไป จะทำให้อินซูลินในร่างกายผลิตออกมาเกินความจำเป็น และตกค้างอยู่ในกระแสเลือด มีผลต่อระบบการไหลเวียนเลือด ซึ่งถ้าหากเป็นเรื้อรังก็จะส่งผลให้เซลล์กล้ามเนื้อเรียบบริเวณรอบ ๆ หลอดเลือดเจริญเร็วขึ้นกว่าปกติ ทำให้การไหลเวียนของเลือดเกิดการปั่นป่วนจนเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง รวมทั้งความเสี่ยงโรคหลอดเลือดต่าง ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
9.น้ำตาลทำให้กระดูกและฟันไม่แข็งแรง น้ำตาลที่มีส่วนผสมของซูโครส ถือว่าเป็นอาหารชั้นดีให้กับเหล่าแบคทีเรียที่อยู่ในช่องปาก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคฟันผุ คราบพลัก หรือเหงือกอักเสบได้
10.น้ำตาลทำให้ร่ายกายเซื่องซึม กลับทำให้กรดอะมิโนที่ชื่อว่า ทรปโตฟานเร่งเข้าสู่สมองมาเกินไปทำให้เสียสมดุลของฮอร์โมนในสมองมีผลทำให้เกิดอาการเหนื่อย ไม่กระฉับกระเฉง เซื่องซึมได้