วิดีโอที่น่าสนใจ

 

Kung Fu...By..Three Bottle Bros. (กังฟูสามพี่น้องตุ๊กตาขวด) V.28

โปรดทราบ การใช้เครื่องคอมหรือมือถือเครื่องเดียว ดูหลายวิดีโอพร้อมกัน จะทำให้คุณไม่ได้รับค่าชมวิดีโอ

235

ผู้เช้าชม

0 / 5:16

ความยาววีดีโอ

0 บาท

รายได้เมื่อชมวีดีโอจบ

เกี่ยวกับวีดีโอ / สร้างรายได้

สร้างรายได้ : ทุกๆ 6 ชั่วโมง
ความยาววีดีโอ : 5 นาที 16 วินาที
ช่วงเวลา : ทุกๆ 6 ชั่วโมง

รายละเอียดวีดีโอ


วันนี้ผมอยากจะพาเพื่อนมาดูกิจกรรมที่สามพี่น้องตระกูลโปรดพระธรรมนะครับงั้นก็คือเขามาเล่นกังฟูกันแต่ที่เราเห็นชัดๆนี้ก็น่าจะเป็นระวังไมค์กับแจ็คนะที่เขากำลังลงฝีมือกันก็มีกระบวนท่าในการเล่นกังฟูของไว้กับแจกน่าสนใจเลยทีเดียวครับการเรียนของกูก็ดีเหมือนกันนะครับการเล่นกับครูก็ถือว่าในคืนนี้เราก็จะมีเมียน้อยมีเป็นชีวิตจริงที่เขาทำแต่สำหรับไม้และแกก็เป็นอนิเมชั่นที่เราทำขึ้นมาจากโปรแกรมก็เราก็เลียนแบบการเล่นของครูแต่ว่าถ้าของเฟรดดี้ก็ถือว่าสุดยอดกังฟูเป็นศิลปะการต่อสู้ที่คนจีนก็ได้รับความสนใจมากเลยทีเดียวจากกังฟูก็มาที่เทควันโดซึ่งลักษณะการต่อสู้ก็จะเกือบจะคล้ายๆกัน 12 โวลต์ค่อนข้างจะมีค่าของแต่ถ้าเป็นของตัวเองถ้าที่ทำได้ก็จะเป็นค่าที่น้อยๆก็จะมีท่าของหมัดเมามีท่าแบบเมาซึ่งต้องบอกว่าถ้ามันเมานี่ชนเฉินหลงเคยทำไว้ในหนังก็คือเป็นวิชาหมัดเมาเป็นท่าที่ค่อนข้างจะน่ากลัวอยู่พอสมควรแต่ก็ตลกดีสำหรับวันนี้ใหม่ก็แสดงท่าของการต่อสู้ทั้งด้านบนแล้วก็ด้านหลังไม่ว่าจะเป็นเท้ามือต่างๆมีน้อยก็มาแสดงการปะทะประลองฝีมือเหมือนกันและกันแต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นท่าของการฝึกกังฟูนั่นเอง
 
กังฟู  หรือ วูซู  เป็นศิลปะการต่อสู้ของจีน ในภาษาจีนกลาง ใช้คำว่า "วูซู" และเมื่อมีการแพร่ขยายออกไปกลายเป็น "กังฟู" ซึ่งเป็นตัวเลข การต่อสู้รูปแบบที่ได้มีการพัฒนากว่าหนึ่งศตวรรษในจีน รูปแบบการต่อสู้เหล่านี้มักจะแยกตามลักษณะทั่วไปที่ระบุว่าเป็น "เจีย" "พ่าย" หรือ "เหมิน"  (โดยรวมแปลว่ากลุ่มหรือสำนัก) ในรูปแบบศิลปะการต่อสู้ ตัวอย่างของลักษณะดังกล่าวรวมถึงการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องกับการจำลองทางกายภาพของสัตว์หรือวิธีการฝึกอบรมแรงบันดาลใจจากปรัชญาจีน ศาสนา และตำนาน ลักษณะที่มุ่งเน้นของพลังงาน จัดการได้รับการระบุเป็นระบบภายใน  ในขณะที่คนอื่น ๆ มีสมาธิในการปรับปรุงและการออกกำลังกายกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือดและมีข้อความกำกับภายนอก 
  
วัดเส้าหลินหรือสำนักเส้าหลิน  เช่าหลินซื่อ; แต้จิ๋ว: เสี้ยวลิ้มยี่; ฮกเกี้ยน: เชี้ยวหลิมซี; คำแปล: วัดป่าบนเขาเส้าซื่อ) เป็นวัดทางพระพุทธศาสนานิกายมหายานที่มีความเก่าแก่อายุมากกว่า 1,500 ปี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาซงซาน หนึ่งในจำนวนห้ายอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีนเป็นเทือกเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดทั้งในด้านของประวัติศาสตร์และในแวดวงยุทธภพ ประกอบด้วยยอดเขาน้อยใหญ่จำนวน 72 ยอด แบ่งเป็นสองกลุ่มคือในกลุ่มของเขาไท่ซื่อ จำนวน 36 ยอด และกลุ่มของเขาเส้าซื่อ  จำนวน 36 ยอด ในนครเติงเฟิง จังหวัดเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน อยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองเจิ้งโจวและเมืองลั่วหยาง  บริเวณรอบ ๆ วัดเส้าหลินเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ใช้สำหรับฝึกวิทยายุทธของหลวงจีน รายล้อมด้วยป่าเจดีย์หรือถ่าหลิน ซึ่งเป็นสุสานของอดีตเจ้าอาวาสและหลวงจีน ซึ่งมีมาตั้งแต่ในยุคสมัยของราชวงศ์ถัง
 
วัดเส้าหลินมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในประเทศจีนและในต่างประเทศ ได้รับการกล่าวขานในเรื่องของกระบวนท่าวิทยายุทธ เพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งวิชาการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน  ซึ่งล้วนแต่กล่าวถึงวิชาเพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินอยู่เสมอ โดยเฉพาะนิยายกำลังภายในของกิมย้งเช่น มังกรหยก, จอมใจจอมยุทธ์, จิ้งจอกภูเขาหิมะ เป็นต้น ปัจจุบันมีหลวงจีนที่บวชเพื่อศึกษาธรรมะและกังฟูจำนวน 180 รูป มีหลวงจีน ซือ หย่งซิน   ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน  เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งในประเทศจีน ที่ทางรัฐบาลจีนได้ร้องขอต่อองค์กรยูเนสโกให้เป็นแหล่งมรดกโลก และได้รับการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ร่วมกับโบราณสถานอีก 5 แห่ง
 
ตั๊กม้อสร้างความเลื่อมใสศรัทธาแก่ชาวจีนเป็นอันมาก โดยเฉพาะการพัฒนาวิทยายุทธเส้าหลินให้ลึกล้ำขึ้นกว่าเดิม ถ่ายทอดธรรมะและวิชากังฟูให้แก่หลวงจีนได้ฝึกฝนเพื่อออกกำลังกายและฝึกสมาธิ เนื่องจากเห็นว่าหลวงจีนส่วนใหญ่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถนั่งสมาธิวิปัสสนาและเจริญกรรมฐานอย่างเคร่งครัด จึงหัดให้หลวงจีนเริ่มฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งควบคู่กับการปฏิบัติธรรม การฝึกสอนวิทยายุทธและกังฟูของตั๊กม้อ ได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นที่มาของวิทยายุทธเส้าหลินที่สง่างามและทรงพลังเช่น หมัดเส้าหลิน หรือเพลงหมัดเส้าหลิน  รวมทั้งหมด 18 กระบวนท่า  การขยายท่าฝ่ามืออรหันต์จาก 18 ท่า เป็น 72 ท่า  โดยเล็งเห็นว่าวิชากังฟูเส้าหลิน ควรได้รับการถ่ายทอดให้ขยายออกไป เช่นเดียวกับนิกายเซนที่ตั๊กม้อได้เดินทางมาเผยแผ่
 
เจตนารมณ์ของตั๊กม้อประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง ศิษย์ของตั๊กม้อเมื่อลาสิกขาออกไปจากวัดเส้าหลินแล้ว ส่วนใหญ่กลายเป็นวีรบุรุษของชาวจีนที่รู้จักกันเป็นอย่างดีเช่น งักฮุยหรือแม้กระทั่งจางซานฟง แม้ในประเทศจีนจะมีวัดนิกายต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากความเก่าแก่ประกอบกับชื่อเสียงอันโด่งดัง  เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลวงจีนหลาย ๆ องค์ นิยมเดินทางมาบวชเรียนเพื่อศึกษาธรรมะ กระบวนท่าวิทยายุทธและกังฟู ทำให้ชาวจีนจำนวนมากเริ่มเดินทางมาวัดเส้าหลินเพื่อฝึกฝนวิชากังฟูของตั๊กม้อ จนได้รับความนิยมอย่างมากในเวลาอันรวดเร็ว และกลายเป็นมหาอำนาจกำลังภายในของจีนมากว่าพันปี รวมทั้งยังเกิดสาขาของวัดเส้าหลินอีกนับสิบแห่งทั่วทุกมุมของโลก
 วัดเส้าหลิน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1038 ในสมัยของไท่เหอเจ้าผู้ครองรัฐวุ่ยเหนือ ในปี พ.ศ. 929 - พ.ศ. 1077  เนื่องจากตั้งอยู่บนยอดเขาเส้าซื่อ  ทางด้านทิศตะวันตกของเทือกเขาซงซาน ครอบคลุมอาณาเขตพื้นที่เกือบทั้งหมดด้วยป่าหรือ "หลิน" นภาษาจีนกลาง จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ วัดเส้าหลิน ในยุคสมัยบุกเบิกยังไม่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ภายหลังจากสร้างขึ้นมาได้ประมาณ 32 ปี ในปี พ.ศ. 1070 พระโพธิธรรมเถระหรือตั๊กม้อ (สำเนียงแต้จิ๋ว หรือ ต๋าหมอในสำเนียงจีนกลาง คำเรียกในภาษาจีนทั้งสองสำเนียงมาจากคำว่า (โพธิ)"ธรรมะ" ในภาษาสันสกฤต) พระภิกษุจากประเทศอินเดีย ได้เดินทางเข้ามาเผยแผ่พุทธศาสนานิกายเซนที่วัดเส้าหลินเป็นครั้งแรก อีกทั้งแลเห็นว่าวัดเส้าหลินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีความสงบร่มรื่น เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมตามนัยของพุทธศาสนานิกายเซน (เซน เป็นสำเนียงญี่ปุ่น ตรงกับคำว่า ฉาน ในสำเนียงจีนกลาง หรือ เซี้ยง ในสำเนียงแต้จิ๋ว รากศัพท์มาจากคำว่า ธยานะ ในภาษาสันสกฤต หรือ ฌาน ในภาษาบาลีนั่นเอง) ปรมาจารย์ตั๊กม้อจึงเข้าพำนักและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสองค์แรก ทำให้ชื่อเสียงของวัดเส้าหลิน อยู่ในฐานะเป็นต้นกำเนิดของศาสนาพุทธนิกายเซนในประเทศจีน กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น

 

^