ผมอยากจะพาเพื่อนไปทำความรู้จักกับผลไม้ชนิดหนึ่งครับนั่นก็คือละมุดครับเชื่อว่าเพื่อนหลายคนคงคุ้นเคยนะครับกับผลไม้ชนิดนี้ที่ชื่อว่าละมุดนะครับแล้วก็คงเคยที่จะลองลิ้มรสนะฮะของผลไม้ชนิดนี้แล้วนะครับละมุดก็เป็นผลไม้ที่ปลูกได้ทั่วๆทุกภาคของประเทศไทยเนี่ยสำหรับพันธุ์ของมนุษย์ที่เรานิยมปลูกกันมากๆก็จะเป็นพันธุ์ที่มาจากต่างประเทศนะครับอย่างเช่นมาจากมาเลเซียหรือว่าฟิลิปปินส์นะครับเหตุผลเพราะว่าให้ผลดกนะครับมีผลขนาดใหญ่แล้วมีรสหวานนะครับและก็กรอบมากกว่าพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทยนะซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองของประเทศไทยนะครับสำหรับระยะเวลาในการปลูกของละมุดนะฮะเริ่มตั้งแต่การปลูกต้นเล็กๆในจนถึงต้นที่เราสามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้วก็จะมีลักษณะเป็นแบบนี้ครับและผู้ที่ปลูกด้วยกิ่งตอนนะฮะก็จะเริ่มออกดอกแล้วก็ติดผลหลังจากที่เราปลูกได้ประมาณสัก 3 ปีนะครับ

ส่วนมนุษย์ที่ปลูกด้วยการเพาะเมล็ดนะฮะหลังจากที่เราปลูกไว้ประมาณสัก 6 ปีนะฮะส่วนใหญ่ก็จะเริ่มออกดอกแล้วก็ติดผลนะครับแล้วการออกดอกของละมุดนะฮะก็จะเป็นการออกดอกที่เป็นรุ่นๆนะครับตลอดทั้งปีซึ่งก็จะออกได้ประมาณสัก 4 รุ่นนั่นเองนะครับหลังจากที่ออกดอกจนบานและจนกระทั่งถึงผลแก่ที่เราสามารถที่จะเก็บเกี่ยวได้นะก็จะใช้เวลาประมาณสัก 7-8 เดือนนั่นเองนะครับแต่ว่านักวิจัยนักวิชาการทางด้านการเกษตรนะฮะก็ยังที่จะมีการพัฒนาฐานของระบบนะครับอย่างต่อเนื่องนะครับเพื่อว่าจะให้มีอายุในการปลูกนะครับให้น้อยลงแล้วก็สามารถที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วขึ้นนั่นเองนะครับและในปัจจุบันครับและมีการพัฒนานะพันธุ์ของมนุษย์ในที่สามารถปลูกได้ระยะเวลาที่ประมาณ 2 ปีในนั้นแล้วก็ให้ผลผลิตภายในปีที่ 3 นั่นเองครับเพื่อนครับผมจะพาเพื่อนๆมาดูคุณค่าทางโภชนาการของมนุษย์บ้างนะครับต่อ 100 กรัมครับสารอาหารหลักๆนะครับของละมุดนะฮะก็ยังเป็นคาร์โบไฮเดรตเหมือนเดิมนะอยู่ที่ 19.96 กรัมครับสรุปแร่ธาตุหลักๆนะครับก็ยังเป็นโพแทสเซียมนะครับ 193 มิลลิกรัมแต่มันก็เป็นแคลเซียมนะครับ 21 มิลลิกรัมแล้วก็เป็นโซเดียมนะครับ 12 มิลลิกรในส่วนของวิตามินนะครับในละมุดก็จะมีวิตามินซีสูงมากๆและก็คือ 14.7 mg ครับ

สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตนี่ก็เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแน่นอนอยู่แล้วนะครับรับประโยชน์ของโพแทสเซียมนะก็จะควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกายนะครับก็จะทำให้เรารู้สึกว่าสดชื่นนะครับและอีกอย่างนึงเขายังสามารถที่จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ด้วยนะครับสำหรับประโยชน์ของแคลเซียมนะฮะก็คือช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงครับโซเดียมก็มีประโยชน์ต่อร่างกายก็คือเขาจะทำหน้าที่ในการควบคุมความสมดุลของของเหลวในร่างกายนะครับรักษาความดันโลหิตที่อยู่ในระดับปกติครับแล้วก็ช่วยในการทำงานของระบบประสาทแล้วก็กล้ามเนื้อครับโดยเฉพาะระบบกล้ามเนื้อของหัวใจนะครับตลอดจนถึงการดูดซึมสารอาหารบางอย่างนะครับในไตแล้วก็ลำไส้เล็กครับสำหรับรายละเอียดของโซเดียมนะฮะผมอาจจะมีการนำเสนอเรื่องราวของโซเดียมนะฮะในวิดีโอครั้งถัดไปนะครับสำหรับวิตามินซีครับเขาก็จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและก็รักษาตัวเองนะครับโดยการไปเสริมสร้างผนังเซลล์นะครับทำให้เส้นเลือดฝอยนะครับแข็งแรงเช่นผนังของเส้นเลือดฝอยนะครับเมื่ออ่าขาดวิตามินซีก็จะทำให้บางนะครับแล้วก็สามารถที่จะทำให้แตกได้ง่ายเพราะฉะนั้นคนที่มีอาการเปิดนะครับหรือว่าเลือดออกตามไรฟันก็จะเกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุการขาดวิตามินซีนั่นเองครับวิตามินซีนะครับเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยในการป้องกันและก็ต่อสู้กับโรคมะเร็งนะครับวิตามินซีที่มีขนาดสูงมากจนเกินไปนะครับสำหรับประโยชน์และก็สรรพคุณของน้องมดนะครับทางด้านการแพทย์นะครับซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นแพทย์ในด้านการแพทย์ต้องบอกว่ามีการใช้ประโยชน์จากเกือบทุกๆส่วนนะฮะสามารถที่จะใช้ทำเป็นยาบำรุงกำลังสำหรับเรื่องของลำต้นละมุดนะฮะ

ของละมุดนะครับนอกจากจะมีวิตามินซีสูงแล้วนะครับละมุดก็ยังเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยหรือไฟเบอร์นะครับมากนะครับมีช่วยในการขับถ่ายแล้วก็ป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดีครับแล้วก็ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ได้ด้วยนะครับนอกจากนี้แล้วนะครับผลของละมุดยังสามารถที่จะแปรรูปนะครับไปทำเป็นไวน์แล้วก็ทำเป็นน้ำผลไม้ของละมุดได้อีกแล้วนะครับยังมีสิ่งที่เราคาดไม่ถึงนะครับก็คือยางที่มีสีขาวๆทั่วทุกส่วนของลำต้นของละมุดยังสามารถที่จะนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมอีกเช่นโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำรองเท้าบูทหรือไม่ก็สามารถที่จะนำไปทำเป็นหมากฝรั่งได้ด้วยนะครับหรือนี่ก็คือความหลากหลายนะครับในการใช้ประโยชน์และก็สรรพคุณของละมุดครับ

เพื่อนๆถ้ามีคำเตือนนะครับในการรับประทานละมุดนะครับละมุดถือว่าเป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัดนะครับสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานนะฮะคนบริโภคเพียงเล็กน้อยหรือนานๆครั้งไม่ควรที่จะรับประทานเยอะเกินไปนะครับคำเตือนสำหรับเด็กๆนะครับผู้ปกครองไม่ควรที่จะให้เด็กๆเนี่ยทานละมุดโดยลำพังนะครับเหตุผลเพราะว่าในเมล็ดของมนุษย์เนี่ยนะครับจะมีความลื่นแล้วก็มีความคมนะครับเพราะฉะนั้นเมื่อหลุดเข้าไปในหลอดลมหรือว่าหลุดเข้าไปในหลอดอาหารก็อาจจะเป็นอันตรายนะครับมีความเสี่ยงที่จะทำให้ความแหลมคมของเมล็ดอย่างนี้ไปบาทในสระบริเวณที่เป็นผนังของหลอดอาหารหรือว่าหลอดลมได้ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กมากนะครับ